เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนกระทั่งท้าวศานตนุสิ้นพระชนม์
เมืองหัสตินาปุระก็ได้โอรสของท้าวศานตนุกับพระนางสัตยวดีชื่อ
"วิจิตรวีรยะ" ก็ขึ้นครองบัลลังก์แทน โดยมีท้าวภีษมะคอยดูแลปกปักรักษา
เมื่อพระราชาวิจิตรวีรยะ ถึงเวลาควรมีคู่ครอง
ก็เป็นหน้าที่ของผู้ดูแลบังลังค์อย่างท้าวภีษมะ ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชาย
ต้องช่วยทำหน้าที่หามเหสีที่เหมาะสมมาให้
ครั้งนั้นกษัตริย์แคว้นกาสี ได้จัดพิธีเลือกคู่ให้กับพระธิดาทั้งสาม
ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว เจ้าหญิงแคว้นกาสีนั้น
ถูกกำหนดให้แต่งงานกับกษัตริย์ของหัสตินาปุระเป็นอันดับแรก
ท้าวภีษมะเมื่อรู้ข่าว จึงเร่งเดินทางไปเพื่อขัดขวางงานแต่ง และ
แย่งชิงตัวองค์หญิงทั้งสามกลับมา
เมื่อมาถึงงานพิธี ภีษมะก็ประกาศว่าจะทำการแย่งตัวองค์หญิงทั้งสามไป
กษัตริย์ทุกคนในงานเกรงกลัวจนไม่กล้าทำอะไร เว้นแต่พระราชาองค์หนึ่งชื่อ "ศัลวะ" ยืนหยัดและเข้าต่อสู้กับท้าวภีษมะอย่างแข็งขัน
ท้าวศัลวะ สู้กับท้าวภีษมะได้อย่างสูสี แต่ท้ายที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้
และยอมให้ท้าวภีษมะนำตัวองค์หญิงทั้งสามกลับหัสตินาปุระตามที่ตั้งใจ
Image