กลับมาดูทางด้านพระนางอัมพิกา และพระนางอัมพาลิกา
กลับกลายเป็นว่าทั้งสองพระนางยินดีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายวิจิตรวีรยะ
แถมยังอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าชายวิจิตรวีรยะอยู่ๆ ก็สิ้นพระชนม์ไป
ทั้งๆ ที่ยังไม่มีโอรสสืบทอดราชบัลลังค์
ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ท้าวภีษมะต้องแก้ไขปัญหา
ท้าวภีษมะและพระนางสัตยวดีปรึกษากัน
เห็นว่าทางเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือการจัดพิธีนิโยค
ซึ่งก็คือการให้พราหมณ์มาทำหน้าที่กำเนิดบุตรแทน
พระนางสัตยวดีจึงได้ติดต่อฤาษีวยาส ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเป็นบุตรชายของพระนางเอง (เรื่องนี้ถ้ามีเวลาจะกลับมาเล่านะว่ามีความเป็นมาอย่างไร)
ให้เดินทางมาทำพิธีนิโยคให้ ฤาษีก็ยินดี แต่ทางด้านพระนางอัมพิกา และพระนางอัมพาลิกา กลับไม่มีความยินดีสักเท่าไหร่ เนื่องจากฤาษีวยาสมีรูปลักษณ์ที่อัปลักษณ์ น่ารังเกียจ แต่ก็ต้องยอมเข้าพิธีนิโยคตามการจัดการของแม่สามี
ในคืนแรก พระนางอัมพิกาเข้าทำพิธีก่อน ด้วยความที่นางทั้งเกลียดทั้งกลัวฤาษีวยาส นางจึงหลับตาตลอดพิธีกรรม เมื่อครั้งเสร็จสิ้นพิธีกรรม ฤาษีวยาสจึงกล่าวว่า "โอรสของนางจะแข็งแรงดี แต่จะตาบอดเนื่องจากพระนางหลับตาตลอดพิธีกรรม" พระนางอัมพิกาได้ยินก็เสียใจมากแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก
ในคืนที่สองเป็นคิวของพระนางอัมพาลิกา นางทั้งเกลียดและกลัวฤาษีวยาสไม่ต่างจากพี่สาว แต่เนื่องด้วยนางกลัวว่าโอรสของนางจะตาบอด จึงไม่กล้าหลับตาแม้แต่นิดเดียว ระหว่างพิธีผิวกายของนางซีดขาวไปหมดด้วยความกลัว เมื่อเสร็จสิ้นพิธีกรรม ฤาษีวยาสจึงกล่าวว่า "โอรสของนางจะมีผิวกายที่ซีดขาว เนื่องจากพระนางเกรงกลัวข้า" พระนางอัมพาลิกาก็รับฟังอย่างเงียบๆ
และในคืนเดียวกันนั้นเอง ฤาษีได้โปรดคนรับใช้อีก 1 คน และกล่าวว่า "บุตรชายของคนรับใช้นี้ จะเป็นคนที่มีสติปัญญาปราดเปรื่อง"
เวลาผ่านไป เมื่อครบกำหนดคลอด
พระนางอัมพิกาให้กำเนิดโอรสตาบอดคนหนึ่ง นามว่า "ธฤตราษฤร์"
พระนางอัมพาลิกาให้กำเนิดทารกผิวขาวซีด นามว่า "ปาณฑุ"
หญิงรับใช้ ให้กำเนิดทารกแข็งแรงปกติดี นามว่า "วิทูร"
Image