ทุกวันที่เอกลัพย์ตื่นขึ้นจะบูชารูปปั้นโทรณาจารย์ก่อนฝึกฝนวิชาการยิงธนู เมื่อเวลาผ่านไป ฝีมือเอกลัพย์ยิ่งพัฒนาขึ้นประหนึ่งโทรณาจารย์มาสอนด้วยตนเอง
อยู่มาวันหนึ่ง ระหว่างที่อรชุนเดินทางเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ พร้อมสุนัขนำทาง สุนัขนำทางเข้าป่าล่วงหน้าไปไกล จนถึงจุดหนึ่งสุนัขก็หยุดนิ่งแล้วเห่าตลอดเวลา พอเห่าไปพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงสุนัขร้อง แล้วเงียบไป อรชุนตกใจมากเลยวิ่งไล่ตาม จนพบว่าที่ปากของสุนัขมีลูกธนูเสียบประสานจนเต็มปากส่งผลให้สุนัขไม่สามารถเห่าได้อีก
อรชุนพิจารณาพบว่าฝีมือการยิงธนูเข้าปากสุนัขนั้นยอดเยี่ยม แม้แต่ตนเองก็ไม่สามารถยิงธนูได้แม่นยำและรวดเร็วขนาดนี้ อรชุนเสาะหาคนยิงจนพบเอกลัพย์ จึงไถ่ถามว่าฝีมือธนูของเอกลัพย์นี้ได้อาจารย์คนใดสอนมา เอกลัพย์ก็ตอบอย่างแข็งขันว่าโทรณาจารย์เป็นอาจารย์ผู้สอนตน
อรชุนได้ยินดังนั้นก็รีบกลับเมืองไปต่อว่าโทรณาจารย์ว่า ไหนว่าจะสอนตนให้เป็นนักธนูผู้เก่งกาจไม่มีใครเกิน เหตุใดจึงแอบสอนเอกลัพย์ให้เก่งกาจยิ่งกว่าตนเอง โทรณาจารย์ได้ยินดังนั้นก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเดินทางไปหาเอกลัพย์พร้อมกับอรชุน เมื่อพบเจอเอกลัพย์ จึงได้ทราบเรื่องที่เอกลัพย์ปั้นรูปปั้นของตน และฝึกฝนโดยใช้ความศรัทธาในตนเองเป็นที่ตั้ง
โทรณาจารย์คิดพักหนึ่งแล้วกล่าวกับเอกลัพย์ว่า ในเมื่อเจ้ายึดถือข้าเป็นอาจารย์ ข้าก็สามารถขอคุรุทักษิณา หรือขอสิ่งตอบแทนในการสอนได้ เอกลพย์ยินดีที่โทรณาจารย์ยอมรับตนเองเป็นลูกศิษย์จึงตอบตกลง โทรณาจารย์จึงกล่าวต่อว่า เช่นนั้นข้าขอนิ้วโป้งขวาเป็นคุรุทักษิณา เอกลัพย์ได้ยินดังนั้นก็จำใจตัดนิ้วโป้งด้านขวาออกแล้วมอบให้โทรณาจารย์ หลังจากนั้นทำความเคารพอาจารย์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเดินหายเข้าป่าไปไม่มีใครเห็นเอกลัพย์อีกเลย
Image