เมื่อเห็นกองทัพของหัสตินาปุระเคลื่อนทัพมาโจมตีเมือง ท้าวทรุปัทก็งงเป็นอย่างมากเพราะแรกเริ่มเดิมที แคว้นปัญจาละกับหัสตินาปุระไม่ได้มีปัญหาใดๆ ต่อกัน แต่กองทัพของปัญจาละก็ตั้งรับอย่างแข็งแกร่ง
สถานการณ์การรบเป็นไปอย่างเข้มข้น กองทัพที่นำโดยทุรโยธน์บุกโจมตีอย่างรุนแรง ดุดัน แต่ทางกองทัพของแคว้นปัญจาละ สามารถต้านทานได้อย่างดี ใช้เวลาไม่นานนักกองทัพเการพก็พ่ายแพ้ ถูกบดขยี้เสียหายยับเยิน
เมื่อถึงคราวกองทัพปาณฑพ อรชุนนำทัพโดยมีภีมะ นกุล และสหเทพ แค่เพียงสี่คนบุกตะลุยกองทัพแคว้นปัญจาละ เมื่อทหารเห็นภีมะถือคทายืนอยู่บนรถม้ามองไกลๆ เหมือนพญามัจจุราช กองทหารก็แหวกออกเป็นแถบ ทั้งสี่คนจึงพุ่งเข้าหาท้าวทรุปัทได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าประชิดรถม้าของท้าวทรุปัท อรชุนก็สามารถเอาชนะท้าวทรุปัทอย่างง่ายดาย
เมื่ออรชุนจับตัวท้าวทรุปัทกลับเมืองหัสตินาปุระ มาส่งให้โทรณาจารย์
ท้าวทรุปัทถึงได้เข้าใจถึงสาเหตุของสงครามที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุนี้
สำหรับโทรณาจารย์แล้ว วินาทีนี้คือช่วงเวลาที่รอคอยตลอดมา โทรณาจารย์พูดจาเหยียดหยามท้าวทรุปัทว่า "ตอนนี้ข้าเป็นเจ้าของทั้งชีวิตและอาณาจักรของเจ้า แต่ในเมื่อเราเป็นสหายเก่าแก่ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า และแบ่งอาณาจักรออกเป็นสองส่วน ให้เรากับเจ้าปกครองคนละครึ่งหนึ่ง ต่อแต่นี้เราก็จะมีฐานะเท่าเทียมกัน"
ท้าวทรุปัทฟังคำของโทรณาจารย์อย่างนิ่งเงียบและไม่กล่าวอะไรสักคำ โทรณาจารย์คิดว่าท้าวทรุปัทเพื่อนเก่าเข้าใจว่าเคยทำอะไรผิดแล้ว จึงเข้าสวมกอดท้าวทรุปัทเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และปล่อยตัวท้าวทรุปัทกลับแคว้นปัญจาละไป
Image