ท้าวพฤหัสรถบิดาของชราสันธ์ เป็นผู้มีบุตรยาก จึงได้ปรนนิบัติฤาษีจันทาเกาษิกะจนฤาษีพอใจเป็นอย่างมาก จึงมอบมะม่วงวิเศษที่จะประทานโอรสให้ ด้วยความที่ท้าวพฤหัสรถมีพระมเหสีฝาแฝดสองพระองค์ ท้าวพฤหัสรถจึงแบ่งมะม่วงวิเศษออกเป็นสองซีก ให้พระมเหสีแต่ละนางทาน
หลังจากพระมเหสีทั้งสองทานมะม่วงวิเศษ ก็ตั้งครรภ์พร้อมๆ กัน เมื่อเวลาผ่านไปพระมเหสีทั้งสองคลอดทารกออกมาเป็นทารกคนละซีก ท้าวพฤหัสรถจึงให้ทหารนำทารกไปทิ้งไว้กลางป่า จนมีนางยักษ์จารามาพบเจอ และนำทารกทั้งสองซีกมาประกบกัน จนกลายเป็นทารกปกติ
นางยักษ์จารานำเอาทารกมาคืนท้าวพฤหัสรถ ทำให้ท้าวพฤหัสรถดีใจมาก ตั้งชื่อทารกว่า "ชราสันธ์" แปลว่า ถูกประกบโดยนางจารา ท้าวชราสันธ์มีพรวิเศษให้ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถจะฆ่าได้
ท้าวชราสันธ์เป็นกษัตริย์ที่มีพันธมิตรมาก ทั้งยังมีความสามารถในการรบ และยังโกรธแค้นวงศ์วฤษณี (ราชวงศ์ของพระกฤษณะ) เป็นพิเศษ ท้าวชราสันธ์ยกทัพมาโจมตีถึง 18 ครั้ง พระกฤษณะก็ได้แต่ป้องกัน ไม่สามารถรบชนะได้ จนต้องตัดสินใจย้ายเมืองหลวงจากเมืองมถุรา มายังเมืองทวารกาที่ไกลออกไปถึง 100 โยชน์ ท้าวชราสันธ์จึงไม่ยกทัพมาโจมตีอีก แถมท้าวชราสันธ์ยังเป็นผู้บูชาพระศิวะอย่างยิ่งยวดอีกด้วย
เมื่อครั้งที่อรชุน ภีมะ และพระกฤษณะปลอมตัวเข้าแคว้นมคธเพื่อท้าประลองตัวต่อตัวกับท้าวชราสันธ์ ท้าวชราสันธ์ก็รับคำท้า และเลือกภีมะเป็นคู่แข่ง ทั้งสองประลองกัน ถึง 14 วันก็ไม่มีใครแพ้ชนะ จนกระทั่งครั้งหนึ่งที่ท้าวชราสันธ์เพลี่ยงพล้ำล้มลงกับพื้น และถูกภีมะกับขาฉีกร่างออกเป็นสองซีก
ภีมะนึกว่าจะสามารถเอาชนะท้าวชราสันธ์ได้แล้ว แต่เกิดเหตุการณ์ที่อัศจรรย์ขึ้น นั่นคือร่างทั้งสองซีกของท้าวชราสันธ์กลับเคลื่อนที่มาประกอบกันเหมือนเดิม ท้าวชราสันธ์ก็ฟื้นขึ้นมาดังเดิม ภีมะตกใจกับเหตุการณ์มาก จึงหันไปมองพระกฤษณะเพื่อขอคำปรึกษา
พระกฤษณะเห็นภีมะมองมาขอคำปรึกษา จึงหยิบใบไม้ขึ้นมาแล้วฉีกออกเป็นสองซีก จากนั้นโยนใบไม้ซีกซ้ายไปด้านขวา และโยนใบไม้ซีกขวาไปด้านซ้าย ภีมะมองก็เข้าใจ จึงหันกลับไปสู้กับท้าวชราสันธ์อีกเช่นเดิม ต่อสู้ไปอีกพักใหญ่ภีมะก็สามารถล้มท้าวชราสันธ์ลงได้ จากนั้นจึงจับขาของท้าวชราสันธ์ฉีกร่างออกเป็นสองซีก จากนั้นก็โยนร่างซีกซ้ายไปทางด้านขวา
เมื่อภีมะทำเช่นนี้ ร่างของท้าวชราสันธ์ก็ไม่สามารถกลับมาประกบกันได้อีก ท้าวชราสันธ์จึงเสียชีวิตลงด้วยสาเหตุนี้เอง