พี่น้องปาณฑพต่างแยกย้ายกันลักลอบเข้าเมืองตามแผนการอย่างไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นยุธิษเฐียรผู้ปลอมเป็นพราหมณ์คอยอยู่ข้างกายท้าววิราฏ เพื่อแนะนำเรื่องราชกิจและสอนการเล่นสกา ภีมะแอบแฝงกายเป็นพ่อครัว อรชุนปลอมตัวเป็นกระเทยคอยรับหน้าที่สอนวิชาร้องรำให้กับเจ้าหญิงอุตตรา ส่วนนกุลและสหเทพดูแลปศุสัตว์ทั้งหลาย
คนที่แฝงตัวเข้าสู่เมืองเป็นคนสุดท้ายคือ พระนางเทราปที ในบทบาทของนางไศรันธรี พระนางแกล้งทำทีเดินทางเข้าเมืองอย่างอ่อนล้า ถึงแม้ว่าพระนางจะพยายามเพียงใด ก็ยังไม่สามารถบดบังความงามของนางได้เลย
นางเดินทางเข้าเมืองได้ระยะหนึ่ง ก็มีคนเล่าลือถึงความงามของนาง จนไปถึงหูของพระนางสุเทศนา ซึ่งเป็นราชินีของท้าววิราฏ พระนางสุเทศนาจึงรับสั่งให้นางไศรันธรีเข้าเฝ้า และซักถามได้ความว่านางไศรันธรีเคยเป็นสาวรับใช้ของพระนางเทราปทีผู้เป็นภรรยาของพี่น้องปาณฑพทั้งห้า หลังจากที่พี่น้องปาณฑพแพ้พนันจนต้องถูกเนรเทศเข้าป่า นางไศรันธรีก็ต้องอพยพหนีออกจากเมืองเช่นเดียวกัน
นางไศรันธรียังบอกว่ามีความสามารถในการจัดเสื้อผ้าแต่งผมดีเยี่ยม ไม่แพ้ช่างคนไหน อยากขอพึ่งพาบารมีของท้าววิราฏขออาศัยอยู่ในเมืองคอยปรนนิบัติพระนางสุเทศนา
พระนางสุเทศนาได้ยินดังนั้นก็เกิดความเวทนา จึงได้รับนางไศรันธรีเข้ามาเป็นข้ารับใช้ แต่กำหนดเงื่อนไขให้นางไศรันธรีต้องห้ามออกจากห้องเด็ดขาดเพราะความงามของนางไศรันธรี อาจไปติดตาต้องใจของผู้ชายคนใดเข้า โดยเฉพาะท้าววิราฏสามีของนางเอง