ย้อนกลับมาระหว่างที่อรชุนแสดงฝีมือธนูอยู่นั้น บนปะรำพิธีผู้ชมต่างตื่นตาตื่นใจในความเก่งกาจของอรชุน แต่มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ดูอย่างคับแค้นใจ นั่นคือกลุ่มพี่น้องเการพ ที่นำโดยทุรโยธน์ ทุรโยธน์มองว่างานประลองฝีมือครั้งนี้ โทรณาจารย์จัดเพื่อให้อรชุนได้แสดงฝีมือ ยิ่งมองยิ่งคับแค้นในใจ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ประชาชนจะต้องชื่นชอบพวกปาณฑพมากกว่าตนเป็นแน่
แต่เมื่อราธียะเดินเข้ามาในสนาม และแสดงฝีมือธนูที่เก่งไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าอรชุน เป็นการหักหน้าอรชุนและโทรณาจารย์ ทุรโยธน์ก็แอบชื่นชมราธียะในใจว่าเป็นวีรบุรุษที่น่าคบหา ยิ่งเมื่อเห็นว่าราธียะท้าทายให้อรชุนมาประลอง ทุรโยธน์และเหล่าเการพก็แอบเชียร์ราธียะในใจ
เมื่อทุรโยธน์ได้ยินกฤปาจารย์ กล่าวตัดบทกับราธียะเรื่องความต่างระหว่างวรรณะ ทุรโยธน์จึงเอ่ยปากขึ้นว่า "ช้าก่อนท่านอาจารย์" และกล่าวว่า "ราธียะมีความกล้าสูงส่งยิ่งกว่าใคร ซึ่งเป็นคุณสมบัติของคนในวรรณะกษัตริย์เท่านั้นพึงมี เพราะฉะนั้น ข้าจึงขอแต่งตั้งให้ราธียะ ได้เป็นกษัตริย์ปกครองแคว้นอังคะ นับตั้งแต่นี้ ราธียะ เจ้าเป็นกษัตริย์และมีศักดิ์ศรีเทียบเท่าพวกเราที่เป็นวรรณะกษัตริย์โดยกำเนิด"
ราธียะได้ฟังดังนั้น ความโศกเศร้า คับแค้น น้อยใจที่เคยเจอก็มลายหายไปสิ้น เนื่องจากทุรโยธน์ได้ปลดเปลื้องปัญหาเรื่องวรรณะที่เป็นปมในใจของตอนเองมาตลอด ราธียะน้ำตาไหลด้วยความปลื้มปลิ่ม วิ่งเข้าทำความเคารพทุรโยธน์ และสาบานกับธุรโยธน์ว่าจะรักและเคารพทุรโยธน์จนกว่าชีวิตจะหาไม่
หลังจากการแต่งตั้งราธียะเป็นกษัตริย์ เวลาก็เย็นจนค่ำมืดแล้ว โทรณาจารย์จึงประกาศให้เลิกงานประลอง ทำให้ความตั้งใจที่จะแสดงความเก่งกาจของอรชุนศิษย์รักถูกบดบังด้วยความเก่งกาจของชายหนุ่มนามว่าราธียะ ชายหนุ่มซึ่งตนเองเคยปฏิเสธที่จะรับเข้าเป็นศิษย์นั่นเอง
Image