เมื่อเสียงเอะอะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ตัวตั้งตัวตีในฝั่งวรรณะกษัตริย์ก็คือ ทุรโยธน์เริ่มหยิบอาวุธขึ้นมาเตรียมจะเข้าโจมตีพราหมณ์หนุ่มผู้ชนะการแข่งขัน แต่ฝ่ายวรรณะพราหมณ์ก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจที่วรรณะกษัตริย์ไม่เคารพกฏกติกาที่ฝ่ายตนเองเป็นฝ่ายชนะ เริ่มหยิบอาวุธเข้าร่วมตะลุมบอน
ทางฝั่งทุรโยธน์ยังไม่ทันเข้าถึงตัวพราหมณ์หนุ่ม ก็มีพราหมณ์อีกคนเข้ามารับมือก่อน (ซึ่งพราหมณ์ที่มารับมือทุรโยธน์คนนี้ก็คือ ยุธิษเฐียร) ทั้งสองสู้กันทั้งคฑาและมือเปล่าอย่างดุเดือด จนพวกปาณฑพคนอื่นก็แปลกใจที่ยุธิษเฐียร ซึ่งปกติจะเป็นคนที่เงียบขรึมอยู่ตลอดเวลา จะสู้กับทุรโยธน์อย่างดุเดือดปานจะฆ่ากันเสียให้ได้
ส่วนทางพราหมณ์หนุ่มก็สู้กับกรรณะ ทั้งสองสู้กันเป็นนานสองนาน ยังไม่มีที่ท่าว่าใครจะชนะ จนกรรณะถึงกับเอ่ยปากว่าเจ้าเป็นใครกันแน่ถึงได้มีวิชาธนูที่เก่งกาจถึงเพียงนี้ ข้าขอทราบนามของเจ้าหน่อย พราหมณ์หนุ่มก็เงียบ ไม่พูดอะไรออกมา
ทั้งสองฝ่ายสู้ตะลุมบอนไปสักพักหนึ่ง พระกฤษณะจึงกล่าวว่า "ข้าว่าเรื่องที่ทั้งสองฝั่งมาสู้กันนี่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง พราหมณ์หนุ่มผู้นี้เป็นผู้ชนะในการประลอง และเจ้าชายธฤษฏะทยุมันก็ยืนยันว่าจะให้ผู้ชนะแต่งงานกับพระนางเทราปที ทุกท่านสมควรจะยอมรับเงื่อนไขว่าเป็นไปตามกติกาแล้ว" เมื่อสิ้นเสียงพระกฤษณะ ทั้งสองฝ่ายก็ยอมเลิกรา และแยกย้ายกันกลับบ้านเมืองของตน
Image