เมื่อจบพิธี เจ้าชายต่างๆ แยกย้ายกันกลับบ้านเมืองของตนเองไป ทางพราหมณ์หนุ่มผู้ชนะการแข่งขันอย่างอรชุน ก็ต้องนำพระนางเทราปทีกลับที่พักตามธรรมเนียมเช่นกัน ทั้งห้าคนก็ลาท้าวทรุปัทและเจ้าชายธฤษฏะทยุมันเพื่อกลับที่พัก
พี่น้องปาณฑพทุกคนดีใจมากที่อรชุนชนะการแข่งขันในครั้งนี้ และยังได้พี่/น้องสะใภ้ที่สวยงามเป็นอย่างยิ่งเช่นพระนางเทราปที ต่างเดินทางกลับอย่างยิ้มแย้ม ร้องเพลงกันอย่างมีความสุขไปตลอดทาง พระนางเทราปทีเองก็มีความสุขเช่นกันที่อยู่ท่ามกลางพี่น้องปาณฑพ และอรชุนผู้เป็นที่รัก
เมื่อเดินทางถึงที่พัก ภีมะผู้เดินเข้ามาก่อน เห็นพระนางกุนตีกำลังก้มหน้าก้มตาจุดเตาเพื่อหุงหาอาหารอยู่ ภีมะก็เอ่ยออกไปว่า "ท่านแม่รู้ไหม วันนี้พวกเราได้อะไรกลับมาบ้าน" พระนางกุนตียังไม่ทันเงยหน้ามามอง ก็กล่าวตอบว่า "ได้อะไรก็เอามาแบ่งเท่าๆ กันนะลูก" เพียงเพราะคำพูดนั้นทำเอาพี่น้องปาณฑพตกใจเป็นอย่างมาก
เมื่อพระนางกุนตีเงยหน้าขึ้นมา เห็นเจ้าหญิงหน้าตาสวย ยืนอยู่ พระนางก็ตกใจ เดินไปกอดพระนางเทราปทีอย่างอบอุ่น และกล่าวต่อว่า "ทำอย่างไรดีละทีนี้ แม่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหญิง เลยได้กล่าวคำออกไปแล้ว" เนื่องจากตามปกติแล้วคำกล่าวของพระนางกุนตีจะเป็นคำสัตย์เสมอ ไม่เคยมีสักครั้งในชีวิตที่พระนางจะพูดปด (ถ้าจะให้เตือน ณ จุดนี้ เหมือนพระนางจะเคย ตอนที่มีกรรณะนะครับ)
ยุธิษเฐียรผู้โดดเด่นทางด้านความเที่ยงธรรมและพี่ใหญ่ของปาณฑพออกความเห็นว่า เมื่ออรชุนชนะการแข่งขันในพิธีสยุมพรมา พระนางก็ควรแต่งงานกับอรชุนเท่านั้น แต่อรชุนคัดค้านว่า ในชีวิตของเรามีพระนางกุนตีผู้เป็นแม่ เป็นผู้ให้กำเนิด จะให้พระนางเสียเกียรติด้วยการพูดปดจากเหตุนี้ไม่ได้ พระนางเทราปทีควรจะต้องแต่งงานกับพี่น้องปาณฑพทุกคน
เมื่อมาถึงจุดนี้ การถกเถียงกันระหว่างพี่น้อง ทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็เริ่มลุกลามใหญ่โต พระนางเทราปทีก็เริ่มเสียใจที่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ และไม่มีทีท่าว่าการถกเถียงจะจบลงง่ายๆ พระนางจึงแอบร้องไห้อยู่ลำพัง
Image