หลังจากที่พี่น้องปาณฑพได้ขอลา เพื่อเดินทางกลับเมืองอินทรปรัศถ์ ฝั่งทุรโยธน์ ทุหสาสัน ศกุนิ และราธียะ ก็นั่งประชุมกันเพื่อวิพากย์วิจารณ์การเข้ามาแทรกแซงของท้าวธฤตราษฏร์ โดยเฉพาะทุรโยธน์ที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะท้าวธฤตราษฏร์มาทำลายโอกาสอันดีที่จะทำลายล้างพี่น้องปาณฑพให้สิ้นซาก
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ปล่อยให้พี่น้องปาณฑพกลับเมืองไป ก็เหมือนการปล่อยเสือเข้าป่า มีโอกาสที่พี่น้องปาณฑพจะไม่ยอมเลิกราแต่โดยดี โดยเฉพาะภีมะ ที่สาบานอย่างจริงจังว่าจะทำลายล้างพี่น้องเการพให้หมดทุกคน ทางที่ดีเราควรทำอะไรสักอย่างเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม หรืออย่างน้อยก็ประวิงเวลาไว้ได้
เมื่อสรุปได้ดังนั้น ทุรโยธน์จึงเดินเข้าไปคุยกับท้าวธฤตราษฏร์ เพื่อสาธยายความเป็นไปได้ที่พี่น้องปาณฑพจะเตรียมอาวุธ ยุทโธปกรณ์และคงจะยกทัพมาทำลายล้างราชสำนักหัสตินาปุระอย่างแน่นอน ทุรโยธน์เห็นว่าทางที่ดีต้องเรียกให้พี่น้องปาณฑพกลับมาเล่นสกากันอีกสักครั้งหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าฝ่ายใดพ่ายแพ้ในเกมสกา จะต้องออกจากเมืองไปอยู่ในป่าเป็นเวลา 13 ปี และในปีที่ 13 จะต้องอยู่อย่างปิดบังตัวตน ห้ามมีใครพบเจอตัว ถ้าเกิดมีใครจับได้ จะต้องอยู่ในป่าต่ออีกเป็นเวลา 13 ปี ตามเงื่อนไขเดิม
ทุรโยธน์เสนอเช่นนี้เพื่อซื้อเวลาให้ตน เนื่องจากทุรโยธน์ยอมรับว่าในเวลาอันสั้นไม่สามารถสร้างบารมีให้เทียบเท่าพี่น้องปาณฑพได้ แต่ถ้ามีเวลา 13 ปี ทุรโยธน์มีเวลาถมเถที่จะปกครองและแผ่อำนาจออกไปจนทัดเทียมกับพี่น้องปาณฑพอย่างแน่นอน
ในตอนแรกท้าวธฤตราษฏร์ไม่เห็นด้วย แต่เมื่อถูกทุรโยธน์เกลี้ยกล่อม และด้วยความรักและเป็นห่วงลูกๆ ของตน ท้าวธฤตราษฏร์ก็สั่งให้อำมาตย์วิทูรเดินทางไปเชิญพี่น้องปาณฑพที่น่าจะเดินทางไปได้เพียงครึ่งทาง ให้เดินทางกลับมาเล่นสกาที่หัสตินาปุระอีกครั้งหนึ่ง