ยุธิษเฐียรนั่งมองฝนฟ้าคะนองที่ตกหนัก จนทุกคนต้องพักแล้วเปรียบเทียบกับความโกรธตัวเอง ที่ทำให้พี่น้องและภรรยาต้องมาพบเจอกับชะตากรรมอันเลวร้าย ทั้งหมดเป็นเพราะความผิดของตนเองคนเดียวแท้ๆ ยุธิษเฐียรนั่งเหม่อมองสายน้ำที่เอ่อล้นปรี่เข้าท่วมที่นาและไหลกัดเซาะพื้นดิน ภายในใจของยุธิษเฐียรอยากให้ความโกรธของตนได้ถูกน้ำฝนชำระล้าง ให้สลายหายไปเฉกเช่นพื้นดิน
เวลาผ่านไปพักใหญ่ ฝนที่ตกก็เริ่มหยุดลง ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่าง ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องราวใดๆ เกิดขึ้น ยุธิษเฐียรเห็นดังนั้นก็ปรึกษาคณะเดินทางทั้งหลาย แล้วตัดสินใจเดินทางขึ้นเขาคันธมาสต่อไป
แต่เมื่อเดินทางไปได้สักพัก พระนางเทราปทีที่อดทนเดินทางก็เป็นลมสลบไป พี่น้องปาณฑพทั้งหลายรีบเข้าไปดูแลพระนาง โดยเฉพาะยุธิษเฐียรได้เข้าไปอุ้มพระนาง ยุธิษเฐียรเอ่ยปากขอโทษพระนางเทราปทีในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และขออภัยที่ตนเองเป็นต้นเหตุของเรื่องราวอันแสนอัปยศซึ่งนำพาให้พระนางต้องมาลำบากตรากตรำอยู่ตอนนี้
คำขอโทษที่ไม่เคยเอ่ย เมื่อเอ่ยออกมาจากปาก ก็ทำให้พระนางเทราปทีเริ่มใจอ่อน และเริ่มเห็นใจยุธิษเฐียรขึ้นมาเล็กน้อย
คณะเดินทางประเมินแล้วว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่สามารถเดินทางขึ้นเขาคันธมาสและต่อไปเขาไกรลาสเพื่อพบเจอกับอรชุนตามที่นัดหมายได้อย่างแน่นอน ทุกคนจึงปรึกษากันเพื่อหาวิธีใดสักอย่างเพื่อให้สามารถเดินทางกันต่อไปได้