หลังจากคำสาบานอันน่ากลัวของภีมะจบลง อรชุนผู้ซึ่งคอยห้ามภีมะอยู่เสมอๆ ก็ลุกขึ้นมา และกล่าวย้ำคำสาบานของภีมะว่า ตนเองจะเป็นผู้จบชีวิตของราธียะ อย่าว่าแต่ต้องรอจนมีสงครามในอนาคตเลย แม้กระทั่งบัดนี้ก็ย่อมได้ ทันใดนั้นเองอรชุนก็ผุดลุกขึ้นเพื่อไปหยิบธนูของตนเอง แต่ก็มียุธิษเฐียรห้ามปรามเอาไว้เสียก่อน อรชุนจึงระงับความโกรธเอาไว้อย่างนั้น
ท้าวธฤตราษฎร์ซึ่งหวั่นเกรงคำสาบานของภีมะอยู่แล้ว ยิ่งหวั่นเกรงหนักเข้าไปอีกหลังจากได้ยินคำพูดของอรชุน เพราะอรชุนนั้นเป็นนักรบที่เก่งกาจหาใครเปรียบได้ ถ้าเกิดมีอรชุนเป็นศัตรูแล้ว ไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคตย่อมต้องพบจุดจบที่เลวร้ายอย่างแน่นอน ท้าวธฤตราษฏร์เริ่มนำคำเตือนของวิฑูรมาพิจารณาและหาทางทำอย่างไรเพื่อระงับเหตุการณ์ไม่ให้เลวร้ายกว่านี้
ส่วนทางด้านทุรโยธน์ ทุหสาสัน ศกุนิ และราธียะ หลังจากที่ได้ยินคำสาบานของภีมะ รวมถึงคำพูดของอรชุน กลับมีท่าทีแตกต่างกับท้าวธฤตราษฏร์อย่างสิ้นเชิง ทั้งสี่คนกลับหัวเราะเสียงดัง โดยเฉพาะทุรโยธน์ผู้เป็นต้นเหตุของเรื่อง หัวเราะดังกว่าใคร แถมยังพูดจาเยาะเย้ยว่าพี่น้องปาณฑพในขณะนี้เป็นทาสของตน จะทำอะไรตนได้อีก