พี่น้องปาณฑพนำโดยยุธิษเฐียร ออกเดินทางจากเมืองหัสตินาปุระเข้าสู่ป่า ในใจของยุธิษเฐียรเต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม ทั้งโกรธเคืองในโชคชะตา และโทษตนเองที่เป็นต้นเหตุของการที่ต้องได้รับความอยุติธรรม และที่สำคัญที่สุดคือพระนางเทราปทีผู้เป็นภรรยา ต้องโดนดูถูกหยามเกียรติ อย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ยุธิษเฐียรเก็บความคั่งแค้นเอาไว้ในใจ และนำเหล่าพี่น้องปาณฑพพร้อมทั้งพราหมณ์ผู้ติดตามเดินทางโดยเร็วด้วยความหวังที่ว่าจะไปให้ห่างจากหัสตินาปุระให้มากที่สุด
เดินทางมาได้สักระยะ ก็ถึงเวลาที่ต้องพักเพื่อหุงหาอาหาร แต่พี่น้องปาณฑพเอง ก่อนออกเดินทางไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากพอ ทำให้พบปัญหาว่า ลำพังพี่น้องปาณฑพเองคงจะพอเที่ยวหาอาหาร หรือผลไม้ทานได้ แต่ถ้ามีผู้ติดตามด้วย คงไม่สามารถหาอาหารให้ได้เพียงพอต่อความต้องการ ทั้งหมดตกลงกันว่าเห็นทีต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหานี้
ยุธิษเฐียรปรึกษากับพราหมณ์เธามยะ ขอร้องให้ผู้ติดตามทั้งหลายกลับสู่ภูมิลำเนา อย่าติดตามพี่น้องปาณฑพมาอีกเลย เพราะกลัวว่าในอนาคตจะมีแต่ความลำบากและอดอยาก แต่พราหมณ์เธามยะให้ความเห็นว่า ผู้ติดตามทั้งหลายมีจิตใจที่ตั้งมั่นที่จะร่วมทุกข์กับพี่น้องปาณฑพ จึงทิ้งบ้านทิ้งเมืองออกเดินทางติดตามพี่น้องปาณฑพมา จะให้ไล่กลับไปคงจะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
พราหมณ์เธามยะบอกยุธิษเฐียรว่า ท่านควรทำพิธีขอพรต่อสุริยเทพ เนื่องด้วยสุริยเทพเป็นเทพที่ดูแลความอุดมสมบูรณ์ของข้าวปลาอาหารต่างๆ ให้ท่านประทานพรเพื่อช่วยพวกเราให้อยู่รอดต่อไป
เมื่อยุธิษเฐียรได้ยินดังนั้นก็เห็นดีงามจึงทำพิธีขอพระต่อสุริยเทพ เมื่อสุริยเทพเห็นยุธิษเฐียรมีความตั้งมั่นก็ปรากฏกายออกมาให้ยุธิษเฐียรเห็น หลังจากนั้น สุริยเทพได้มอบหม้อใบหนึ่งให้กับยุธิษเฐียรและบอกว่า เจ้าไม่ต้องกลัวว่าจะอดอยากอีกต่อไป เมื่อพระนางเทราปทีใช้หม้อนี้หุงหาอาหาร จะบังเกิดอาหารให้กินไม่มีวันหมด และสามารถเลี้ยงดูทุกคนได้อย่างเพียงพอ ยุธิษเฐียรรับหม้อวิเศษจากสุริยเทพด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากเสร็จสิ้นก็เดินทางเข้าป่าต่อไปโดยจุดมุ่งหมายคือป่ากามัยกะ ซึ่งเป็นที่พำนักของเหล่าฤาษีที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก