ทางด้านราชสำนักหัสตินาปุระ ซึ่งปกครองอย่างร่มเย็นโดยท้าวธฤตราษฏร์ แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานถึง 12 ปี ตั้งแต่ที่พี่น้องปาณฑพต้องถูกเนรเทศ แต่ทุรโยธน์ ศกุนิ และราธียะ ต่างก็ระแวงว่าสักวันหนึ่ง พี่น้องปาณฑพจะต้องรวมรวมกำลังพล และกลับมาล้างแค้น จึงคอยส่งสายสืบไปคอยติดตามข่าวพี่น้องปาณฑพอยู่เสมอๆ
เมื่อข่าวล่าสุดเรื่องการกลับมาพำนักที่ป่ากามัยกะของพี่น้องปาณฑพมาถึง ทุรโยธน์ ทุหสาสัน ศกุนิ และราธียะ ก็ได้นั่งปรึกษากันว่าจะหาหนทางใดที่จะไปแอบสอดส่องว่าพี่น้องปาณฑพมีความเป็นอยู่เช่นใด ทุรโยธน์อยากไปเห็นกับตาว่ายุธิษเฐียรและน้องทั้งหลายมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น อดอยากเพียงไหน
ราธียะจึงเสนอว่ามีแหล่งปศุสัตว์ที่อยู่ใกล้เคียงกับป่ากามัยกะ ที่แห่งนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของราชสำนักหัสตินาปุระ เราจึงสามารถใช้ข้ออ้างในการไปตรวจตราแหล่งปศุสัตว์แห่งนั้น เพื่อยกทัพไปสองส่องความเป็นอยู่ของพี่น้องปาณฑพได้ ทุรโยธน์ก็เห็นด้วย และให้ทำตามข้อเสนอของราธียะ
คำขอเรื่องการเดินทางไปตรวจตราปศุสัตว์ได้รับอนุมัติโดยไม่มีผู้ใดเข้าใจว่าเหตุใดทุรโยธน์จะต้องไปตรวจตราปศุสัตว์ด้วยตนเอง แต่ก่อนเดินทางทุรโยธน์ได้บอกสาเหตุของการเดินทางที่แท้จริงให้ท้าวธฤตราษฏร์ผู้เป็นบิดารับทราบ
ท้าวธฤตราษฏร์ได้ยินดังนั้นก็นึกเป็นห่วงว่าทุรโยธน์อาจถูกพี่น้องปาณฑพที่กำลังเคียดแค้นทำร้ายเอาได้ แต่ก็ยอมทำตามที่ทุรโยธน์ต้องการ