ศกุนิเป็นพี่ชายของพระนางคานธารี เมื่อครั้งที่พระนางอภิเษก ก็ย้ายตามพระนางมาอยู่ที่หัสตินาปุระ ด้วยความที่ศกุนิไม่พอใจที่พระนางคานธารี ต้องแต่งงานกับพระราชาตาบอด จึงวางแผนทำลายราชสำนักหัสตินาปุระตลอดเวลา
อภิมันยุเป็นลูกของอรชุนกับพระนางสุภัทรา อภิมันยุเก่งกาจในการยิงธนูเทียบเท่าอรชุน เข้าร่วมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรในกองทัพปาณฑพ เป็นนักรบที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของฝั่งปาณฑพ
ฤาษีวยาส เป็นลูกชายของพระนางสัตยวดีกับฤาษีปราศร เมื่อครั้งที่ท้าวภีษมะมีปัญหาเรื่องขาดผู้ดูแลบัลลังค์ของหัสตินาปุระก็ได้จัดพิธีนิโยคโดยมีฤาษีวยาสมาทำพิธีให้ ฤาษีวยาสปรากฏตัวในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ และช่วยให้เรื่องราวที่ยุ่งเหยิงเหมือนไร้ทางออกสามารถผ่านไปได้ด้วยดี และยังเป็นผู้เล่าเรื่องมหาภาระให้พระพิฆเนศวรเป็นผู้จดบันทึกไว้อีกด้วย
**NFT นี้ถูกจัดทำขึ้นพิเศษเพื่อแจกในงาน Bitkub NFT Fair เท่านั้น
ฆโฏตกัจเป็นลูกของภีมะกับนางรากษสหิทิมพี ในศึกที่ทุ่งกุรุเกษตร ฆโฏตกัจปรากฏตัวเพื่อเข้าร่วมฝั่งปาณฑพ และเป็นแม่ทัพคนสำคัญ ในการจัดการกับอลัมพุษะและอลายุธ ในการศึกวันที่ 14 ซึ่งมีการรบยาวนานจนถึงตอนกลางคืน ฆโฏตกัจได้สังหารกองทัพเการพมากมาย จนทุรโยธน์ต้องสั่งให้กรรณะนำหอกวาสวีศักติ ที่ตั้งใจจะเก็บไว้สังหารอรชุน มาใช้สังหารฆโฏตกัจเสีย ก่อนสิ้นใจฆโฏตกัจขยายตัวให้ใหญ่ที่สุด ลัมทับกองทัพเการพไปถึง 1 อัคเษาหิณี
NFT ที่ระลึกการ (เกือบ) จัดกิจกรรมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร มอบให้เป็นพิเศษสำหรับผู้ลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 37 addresses
ทุรโยธน์ เป็นลูกของท้าวธฤตราษฏร์และพระนางคานธารี เป็นพี่ใหญ่ มีน้องชาย 99 คน และมีน้องสาวอีก 1 คน ทุรโยธน์ มีความอิจฉาภารดาปาณฑพ และเฝ้าหาหนทางในการทำลายอยู่ตลอด ในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร ทุรโยธน์ถือเป็นผู้นำของกองทัพเการพ นำทัพเข้าต่อกรกับฝ่ายปาณฑพอย่างเข้มแข็ง
ภีมะเป็นลูกคนรองที่เกิดจากพระนางกุนตีสวดมนต์เรียกพระพายมาประทานบุตรให้ เกิดวันเดือนปี เดียวกันกับทุรโยธน์ ในครั้งที่ทุหศาสันจิกหัวพระนางเทราปทีและพยายามถอดผ้าของพระนาง ภีมะโกรธแค้นจนสาบานว่าจะต้องฆ่าทุรโยธน์ ด้วยการเอากระบองฟาดที่หน้าตัก และจับทุหศาสัน แหกอกและดื่มเลือดจากอกให้ได้ ภีมะมีลูกชายกับนางยักษ์หิทิมพี ชื่อว่าฆโฏตกัจ ซึ่งปรากฏตัวมาช่วยรบในสงคราม ที่ทุ่งกุรุเกษตรอีกด้วย
สาตยกีเป็นนักรบผู้เทิดทูนกฤษณะ และลูกศิษย์คนสำคัญของอรชุน สาตยกีเข้าร่วมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรกับฝ่ายปาณฑพ มีส่วนช่วยให้ฝ่ายปาณฑพชนะสงครามเป็นอย่างมาก และสาตยกีก็ยังเป็นหนึ่งในแปดคนที่รอดชีวิตจากสงครามอีกด้วย
ท้าวภีษมะ เดิมชื่อเจ้าชายเทวพรต เป็นลูกของพระราชาศานตนุกับพระแม่คงคา เมื่อได้กล่าวคำสาบานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชบัลลังค์ และจะไม่แต่งงาน จึงได้ชื่อใหม่ว่าภีษมะ ทั้งยังได้รับพรจากพระราชาศานตนุ ว่าจะให้สามารถ มีชีวิตยืนยาวจนถึงวันที่ยินยอมพร้อมตายเองถึงจะตายได้ ท้าวภีษมะเคยมีเรื่องราวกับพระนาง อัมพา จนทำให้พระนางถึงขนาดสาบาน ว่าจะกลับชาติมาเกิดเพื่อเป็นต้นเหตุแห่งความตายของท้าวภีษมะ ในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร ท้าวภีษมะเป็นผู้บัญชาการของกองทัพเการพ ทั้งที่ไม่เต็มใจนัก เพราะอีกฝั่งก็เป็นหลานของตนเองเช่นเดียวกัน จึงบอกว่าจะเข้าร่วมสงครามโดยไม่สังหารพวกปาณฑพเด็ดขาด
"พระมารดาของเจ้าชายเทวพรต"
พระนางคงคาคือเจ้าแม่คงคาที่ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ ก่อนที่จะลงมาเกิดได้ให้สัญญากับกลุ่มเทพวสุว่าเมื่อเทพวสุมาเกิดในท้องของพระแม่ จะช่วยให้หมดกรรมไวๆ เพื่อที่จะได้กลับไปสวรรค์ดังเดิม ยกเว้นแต่เทพวสุองค์สุดท้ายที่จำเป็นจะต้องใช้กรรมจึงต้องอยู่ในโลกนี้นานกว่าใคร หลังจากที่ภีษมะตายพระนางคงคาก็มารับไปอยู่บนสวรรค์ดังเดิม
"ลูกศิษย์ผู้เก่งกาจของอรชุน"
สายตกีเป็นนักรบผู้เทิดทูนกฤษณะ และลูกศิษย์คนสำคัญของอรชุน สาตยกีเข้าร่วมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรกับฝ่ายปาณฑพและมีส่วนช่วยให้ชนะสงครามเป็นอย่างมาก ในวันที่ 14 ซึ่งเป็นวันที่อรชุนสาบานจะสังหารท้าวชัยทรัถให้ได้ สาตยกีได้กำจัดภูริศรวัส และเปิดทางให้อรชุนเข้าไปจัดการชัยทรัถได้สำเร็จ สาตยกีเป็นหนึ่งในแปดคนของกองทัพปาณฑพที่รอดชีวิตจากสงครามได้
"บุรุษผู้เกิดมาเพื่อฆ่าโทรณาจารย์"
ธฤษฏะทยุมันเป็นโอรสของท้าวทรุปัท ซึ่งเกิดจากการที่ท้าวทุรปัททำพิธีขอบุตร ธฤษฏะทยุมันเข้าร่วมสงครามในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายปาณฑพ และในวันที่ 15 ของสงคราม ธฤษฏะทยุมันก็ได้ฆ่าโทรณาจารย์ได้สำเร็จ หลังจากทุรโยธน์ตายและจบสงครามในวันที่ 18 อัศวัตถามาลูกชายของโทรณาจารย์ได้แอบเข้าค่ายพักของธฤษฏะทยุมันและใช้เชือกรัดคอธฤษฏะทยุมันเพื่อล้างแค้นให้บิดาของตน
"ผู้รจนามหาภารตะ"
ในตอนที่ฤาษีวยาสต้องการจะรจนาเรื่องราวของมหากาพย์มหาภารตะนี้ขึ้น แต่ยังขาดผู้ที่จะคอยจดบันทึกให้ พระพรหมจึงแนะนำว่า พระคเณศ ซึ่งเป็นผู้มีปัญญา และสามารถเขียนได้อย่างรวดเร็ว โดยการนี้ฤาษีวยาสจึงเดินทางไปขอให้พระคเณศช่วยเหลือ พระคเณศตอบรับ และวางเงื่อนไขไว้ข้อหนึ่งว่า"เมื่อใดก็ตามที่ข้าพเจ้าลงมือเขียน ท่านจะต้องบอกเล่าโดยไม่สามารถหยุดได้" ฤาษีวยาสจึงรับคำ โดยบอกว่า "สิ่งที่พระคเณศจดนั้น จะต้องเข้าใจเสียก่อน" นั้นจึงทำให้ฤาษีวยาสมีเวลาพัก ระหว่างที่พระคเณศพยายามทำความเข้าในใจเรื่องราวบางช่วงบางตอนที่ดูจะยาก และซับซ้อน
ฤาษีวยาสเป็นลูกชายของพระนางสัตยวดีกับฤาษีปราศร เมื่อครั้งที่ท้าวภีษมะมีปัญหาเรื่องขาดผู้ดูแลบัลลังค์ของหัสตินาปุระก็ได้จัดพิธีนิโยคโดยมีฤาษีวยาสมาทำพิธีให้ ฤาษีวยาสปรากฏตัวในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ และช่วยให้เรื่องราวที่ยุ่งเหยิงเหมือนไร้ทางออกสามารถผ่านไปได้ด้วยดี และยังเป็นผู้เล่าเรื่องมหาภาระให้พระพิฆเนศวรเป็นผู้จดบันทึกไว้อีกด้วย
"จากเพื่อนรัก กลายเป็นแค้นชั่วชีวิต"
สมัยเด็กท้าวทรุปัทเรียนอยู่ที่เดียวกับโทรณาจารย์ ทั้งสองสนิทกันมาก ก่อนที่จะเรียนจบและแยกย้ายกันไปท้าวทรุปัทได้ให้สัญญากับโทรณาจารย์ว่าเมื่อใดที่ตกระกำลำบากให้ไปหาได้ทันที เมื่อผ่านเวลาไปประมาณหนึ่ง โทรณาจารย์มีภรรยาและลูก มีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นมาก จึงนึกถึงคำสัญญาที่ท้าวทรุปัทเคยให้ไว้ตอนยังเด็ก แต่เมื่อบากหน้าไปพบท้าวทรุปัท ทุกอย่างกลับตาลปัตร ท้าวทรุปัทนึกรังเกียจและไม่ยอมต้องรับโทรณาจารย์ โทรณาจารย์เก็บความแค้นเอาไว้ในใจ เดินทางไปราชสำนักหัสตินาปุระและพร่ำสอนเหล่าเด็กเการพและปาณฑพ เมื่อสำเร็จวิชาโทรณาจารย์ก็ขอให้เการพและปาณฑพยกทัพมายึดเมืองของท้าวทรุปัท ท้าวทรุปัทรบแพ้กองทัพของอรชุนก็นึกเสียใจว่าทำไมเราถึงไม่มีโอรสที่เก่งกาจเช่นอรชุนบ้าง จึงได้ทำพิธีขอลูกเพื่อให้เกิดมาล้างแค้นแทนตน ท้าวทรุปัทถูกโทรณาจารย์ฆ่าตายในการรบที่ทุ่งกุรุเกษตรในวันที่ 15
"พี่ชายของกฤษณะผู้เกลียดความอยุติธรรม"
พลรามเป็นพี่ชายของกฤษณะ และปฏิเสธที่จะเข้าร่วมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรในฝั่งใด ในวันที่ 18 เมื่อภีมะประลองกับทุรโยธน์ ภีมะได้ใช่คฑาฟาดไปที่ต้นขาของทุรโยธน์จนถึงแก่ความตาย พลรามโกรธมากเนื่องจากผิดจากข้อตกลงในการสู้ จนถึงขั้นจะใช้คันไถเข้าฟาดภีมะ แต่กฤษณะห้ามไม้โดยให้เหตุผลว่าฝั่งทุรโยธน์ทำผิดกติกามาตลอด
"รบเถิดอรชุน"
อรชุนเป็นลูกของพระอินทร์ที่ประทานให้พระนางกุนตี เป็นน้องชายของ [ยุธิษเฐียร] กับ [ภีมะ] และยังเป็นพี่ชายของ [นกุล] กับ [สหเทพ] เมื่อครั้งที่ได้เล่าเรียนกับ [โทรณาจารย์] ก็เป็นศิษย์ที่อาจารย์รักมากกว่าใคร เนื่องจากมีฝีมือการยิงธนูที่เก่งกาจ อรชุนไม่ถูกกับ [กรรณะ] เป็นพิเศษ ถึงขั้นที่ต่างฝ่ายต่างสาบานว่า จะฆ่าฝ่ายตรงข้ามเสียให้ได้ ก่อนเริ่มสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร อรชุนไม่สามารถตัดใจทำสงครามได้ เนื่องจากฝ่ายเการพก็เป็นเฉกเช่นญาติพี่น้อง จน [กฤษณะ] ต้องท่องบทสวดภควัตคีตา เพื่อเกลี้ยกล่อมให้อรชุนยอมทำสงครามเพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม อรชุนเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่และในประวัติการรบไม่เคยแพ้ใครเลยสักครั้งเดียว
"สุริยะบุตร ผู้มีชะตากรรมที่แสนอาภัพ"
กรรณะเป็นบุตรที่พระนางกุนตี ได้รับประทานจากพระอาทิตย์ ในครั้งที่กรรณะเกิด มีเสื้อเกราะและตุ้มหูติดกายมาด้วย เมื่อพระนางกุนตี นำกรรณะไปทิ้งที่แม่น้ำ จนนายสารถีและนางราธา มาเก็บไปเลี้ยงจึงได้อีกชื่อหนึ่งว่า ราธียะ หรือลูกของนางราธา กรรณะมีความเก่งกาจด้านวิชายิงธนูไม่แพ้อรชุน และโดยแท้จริงแล้วต้องถือว่ากรรณะ เป็นพี่ใหญ่ของภารดาปาณฑพ แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนั้น ยกเว้นแต่พระกฤษณะ เท่านั้น กรรณะสนิทสนมกับทุรโยธน์ และตั้งตัวเป็นศัตรูกับภารดาปาณฑพทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอรชุน และเข้าร่วมสงครามในฝั่งเการพ
ในวันที่ 17 ของสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร กรรณะก็ถูกอรชุน ยิงศรอันชลิกะฆ่าตาย ในระหว่างที่ล้อรถติดหล่มโคลนอยู่
"มหาเทพย์ในร่างมนุษย์ ผู้ชี้นำของ [อรชุน]"
พระกฤษณะเป็นอวตารของพระวิศณุและ เป็นญาติฝ่ายมารดาของผ่ายปาณฑพ มีความสนิทสนมกับ [อรชุน] เป็นพิเศษ ในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร พระกฤษณะให้คำสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมรบกับฝ่ายปาณฑพ แต่จะทำหน้าที่เป็นเพียงสารถีให้กับ [อรชุน] เท่านั้น ในระหว่างสงคราม ด้วยการชี้นำของพระกฤษณะ ทำให้ [อรชุน] ปราบแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ของฝ่ายเการพ และชนะสงครามในที่สุด
"ทหารเอกของพระราม ผู้จำแลงเป็นธงรถศึกให้กับ [อรชุน]"
แท้จริงแล้ว หนุมานเป็นพี่ชายต่างมารดากับ [ภีมะ] เนื่องจากเป็นบุตรของพระพายทั้งคู่ วันหนึ่ง [ภีมะ] เดินทางเข้าป่า พบกับลิงแก่ตัวหนึ่งนอนขวางทางอยู่ และท้าทายให้ [ภีมะ] ยกหางมันขึ้น [ภีมะ] ทำอย่างไรก็ยกไม่ขึ้นจึงยอมแพ้ ลิงจึงกลายร่างเป็นหนุมาน และให้พร [ภีมะ] ว่า ตนจะจำแลงเป็นธงรถศึกของ [อรชุน] เพื่อช่วยเหลือกองทัพปาณฑพ เพราะที่ใดมีธงรูปหนุมาน ที่นั่นจะประสบชัยชนะ
"บิดาของ [ภีมะ] ผู้ประทานพละกำลังที่ไม่มีใครชนะได้"
พระนาง [กุนตี] เชิญพระพายมาประทานโอรสคนที่สอง เนื่องจากต้องการให้โอรสของพระองค์เพรียบพร้อมไปด้วย พละกำลัง
"บิดาของ [ยุธิษเฐียร] ผู้เป็นต้นแบบแห่งความเที่ยงธรรม"
ในครั้งที่ท้าว [ปาณฑุ] ถูกสาปให้ไม่สามารถมีลูกได้ ได้ขอให้พระนาง [กุนตี] ใช้มนต์เพื่อเรียกเทพมาประทาน โอรสให้ พระนาง [กุนตี] นึกถึงพระยมเป็นองค์แรก เนื่องจากต้องการให้โอรสของพระองค์เพรียบพร้อมไปด้วย ความเที่ยงธรรม
"พราหมณ์ผู้สาบานว่าจะเป็นปฏิปักษ์ต่อกษัตริย์ทั้งโลกา"
ปรศุรามเป็นพราหมณ์ที่มีเรื่องกับกษัตริย์ และพกขวานคู่ใจไปตามฆ่ากษัตริย์ทั้งหมด หลงเหลือเอาไว้แค่เพียงราชินีและเชื้อพระวงศ์ที่เป็นเพศหญิง แม้จะเป็นแบบนั้น ปรศุรามก็ยังเป็นอาจารย์ผู้ประสาทวิชา ของ [ภีษมะ] , [โทรณาจารย์] และ [กรรณะ]
"เทพผู้ทำลายโลก"
พระศิวะเป็นหนึ่งในเทพสูงสุด ว่ากันว่าพระองค์มีตาที่สามที่กลางหน้าผาก เมื่อใดที่ตาที่สามเปิดออกมาจะบันดาลให้เกิดไฟบรรลัยกัลป์ เผาทำลายโลก พระศิวะเป็นผู้มอบ ศรปาศุปัต ให้ [อรชุน]
"บิดาของ [อรชุน] ผู้เป็นราชาแห่งเทวดาทั้งปวง"
เมื่อครั้งที่ [อรชุน] ช่วยพระอัคนีเผาป่าขาณฑวะปรัสถ์ [อรชุน] ต้องร่วมมือกับพระ [กฤษณะ] เพื่อรบกับพระอินทร์ และเหล่าเทวดา เมื่อ [อรชุน] รบชนะ พระอินทร์ได้พา [อรชุน] ไปเที่ยวที่สวรรค์ จนได้เรียนรู้วิชาและอาวุธวิเศษมากมาย พระอินทร์ทราบด้วยญาณว่า [อรชุน] ต้องสู่รบกับ [กรรณะ] ในอนาคต จึงปลอมตัวเป็นชายแก่ไปขอเสื้อเกราะจาก [กรรณะ] เพื่อให้ [กรรณะ] ไร้อุปกรณ์ป้องกันตัว แต่ก็หลงกล [กรรณะ] ทำให้ ต้องประทานหอกวาสุวีศักติ ที่สามารถใช้ได้ครั้งเดียวให้ [กรรณะ] ไป
"บิดาของ [กรรณะ] ผู้ประทานกวจะ (เสื้อเกราะ) และกุณฑล (ตุ้มหู) ให้กับ [กรรณะ] เพื่อปกป้องดูแล" [กรรณะ] เองแม้ไม่ทราบว่าพระอาทิตย์เป็นบิดา แต่ยังคงบูชาพระอาทิตย์อยู่ทุกวัน และยังปฏิญาณว่า ทุกๆ วันเวลาเที่ยง เขาจะอนุญาตให้ประชาชน มารับบริจาคทานจากเขา โดยไม่มีครั้งใดที่เขา จะให้ใครกลับบ้านมือเปล่า ในวันที่ 17 ของสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรที่ [กรรณะ] ถูก [อรชุน] ฆ่าตาย แม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลามืด แต่แสงแดดก็อ่อนลงในทันที เหมือนว่าจะไว้อาลัย ให้กับความตายของ [กรรณะ] นั่นเอง