NFT พิเศษเพื่อฉลองที่กรรณะชนะในการ Vote Social DAO
ศกุนิเป็นพี่ชายของพระนางคานธารี เมื่อครั้งที่พระนางอภิเษก ก็ย้ายตามพระนางมาอยู่ที่หัสตินาปุระ ด้วยความที่ศกุนิไม่พอใจที่พระนางคานธารี ต้องแต่งงานกับพระราชาตาบอด จึงวางแผนทำลายราชสำนักหัสตินาปุระตลอดเวลา
อภิมันยุเป็นลูกของอรชุนกับพระนางสุภัทรา อภิมันยุเก่งกาจในการยิงธนูเทียบเท่าอรชุน เข้าร่วมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรในกองทัพปาณฑพ เป็นนักรบที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของฝั่งปาณฑพ
ฤาษีวยาส เป็นลูกชายของพระนางสัตยวดีกับฤาษีปราศร เมื่อครั้งที่ท้าวภีษมะมีปัญหาเรื่องขาดผู้ดูแลบัลลังค์ของหัสตินาปุระก็ได้จัดพิธีนิโยคโดยมีฤาษีวยาสมาทำพิธีให้ ฤาษีวยาสปรากฏตัวในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ และช่วยให้เรื่องราวที่ยุ่งเหยิงเหมือนไร้ทางออกสามารถผ่านไปได้ด้วยดี และยังเป็นผู้เล่าเรื่องมหาภาระให้พระพิฆเนศวรเป็นผู้จดบันทึกไว้อีกด้วย
**NFT นี้ถูกจัดทำขึ้นพิเศษเพื่อแจกในงาน Bitkub NFT Fair เท่านั้น
ยมเทพผู้เป็นต้นแบบแห่งความเที่ยงธรรม พระนางกุนตีเชิญยมเทพมาประทานโอรส เนื่องจากต้องการให้โอรสของพระองค์เพรียบพร้อมไปด้วยความเที่ยงธรรม
วายุเทพเป็นบิดาของภีมะ ผู้ประทานพละกำลังที่ไม่มีใครชนะได้ พระนางกุนตีเชิญพระพายมาประทานโอรสคนที่สอง เนื่องจากต้องการให้โอรสของพระองค์เพรียบพร้อมไปด้วยพละกำลัง
ฆโฏตกัจเป็นลูกของภีมะกับนางรากษสหิทิมพี ในศึกที่ทุ่งกุรุเกษตร ฆโฏตกัจปรากฏตัวเพื่อเข้าร่วมฝั่งปาณฑพ และเป็นแม่ทัพคนสำคัญ ในการจัดการกับอลัมพุษะและอลายุธ ในการศึกวันที่ 14 ซึ่งมีการรบยาวนานจนถึงตอนกลางคืน ฆโฏตกัจได้สังหารกองทัพเการพมากมาย จนทุรโยธน์ต้องสั่งให้กรรณะนำหอกวาสวีศักติ ที่ตั้งใจจะเก็บไว้สังหารอรชุน มาใช้สังหารฆโฏตกัจเสีย ก่อนสิ้นใจฆโฏตกัจขยายตัวให้ใหญ่ที่สุด ลัมทับกองทัพเการพไปถึง 1 อัคเษาหิณี
สุริยะเทพเป็นบิดาของกรรณะ ได้ประทานชุดเกราะและต่างหูให้กรรณะตั้งแต่ตอนกรรณะแรกเกิด กรรณะเองแม้ไม่ทราบว่าพระอาทิตย์เป็นบิดา แต่ยังคงบูชาพระอาทิตย์อยู่ทุกวัน และยังปฏิญาณว่า ทุกๆ วันเวลาเที่ยง เขาจะอนุญาตให้ใครก็ตามมารับบริจาคทานจากเขา โดยไม่มีครั้งใดที่เขา จะให้ใครกลับบ้านมือเปล่า ในวันที่ 17 ของสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรที่กรรณะถูกอรชุนสังหาร แสงอาทิตย์ก็อ่อนลงในทันที เหมือนว่าจะไว้อาลัยให้กับความตายของกรรณะนั่นเอง
พระอินทร์เป็นเจ้าแห่งเทพบนสวรรค์ทั้งปวง และยังเป็นบิดาของอรชุนอีกด้วย เมื่อครั้งที่อรชุนช่วยพระอัคนีเผาป่าขาณฑวะปรัสถ์ อรชุนต้องร่วมมือกับพระกฤษณะ เพื่อรบกับพระอินทร์ และเหล่าเทวดา เมื่ออรชุนรบชนะ พระอินทร์ได้พาอรชุนไปเที่ยวที่สวรรค์ จนได้เรียนรู้วิชาและอาวุธวิเศษมากมาย พระอินทร์ทราบด้วยญาณว่าอรชุนต้องสู่รบกับกรรณะในอนาคต จึงปลอมตัวเป็นชายแก่ไปขอเสื้อเกราะจากกรรณะ เพื่อให้กรรณะไร้อุปกรณ์ป้องกันตัว แต่ก็หลงกลกรรณะ ทำให้ต้องประทานหอกวาสุวีศักติ ที่สามารถใช้ได้ครั้งเดียวให้กรรณะไปเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน
NFT ที่ระลึกการ (เกือบ) จัดกิจกรรมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร มอบให้เป็นพิเศษสำหรับผู้ลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 37 addresses
NFT พิเศษที่เกิดจากการโหวตการสู้ตัวต่อตัวระหว่างกรรณะกับอรชุน
อัศวัตถามาเป็นลูกชายของโทรณาจารย์ ผู้ติดสอยห้อยตามพ่อมาอยู่ในราชสำนักหัสตินาปุระ ถือว่าเป็นอวตารหนึ่งของพระศิวะ อัศวัตถามาเกิดมาพร้อมอัญมณีที่กลางหน้าผาก ทำให้มีอำนาจเหนือทุกสิ่งที่ต่ำกว่ามนุษย์ และป้องกันความหิวโหยและความเหนื่อยล้าอีกด้วย อัศวัตถามาเข้าร่วมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร โดยอยู่ฝั่งเการพ
ปรศุรามเป็นพราหมณ์ที่มีเรื่องกับวรรณะกษัตริย์ จึงพกขวานคู่ใจไปตามฆ่ากษัตริย์ทั้งหมด หลงเหลือเอาไว้แค่เพียงราชินีและเชื้อพระวงศ์ที่เป็นเพศหญิงเท่านั้น แม้จะเป็นแบบนั้น ปรศุรามก็ยังเป็นอาจารย์ผู้ประสาทวิชา ของภีษมะ , โทรณาจารย์ และกรรณะ
ทุรโยธน์ เป็นลูกของท้าวธฤตราษฏร์และพระนางคานธารี เป็นพี่ใหญ่ มีน้องชาย 99 คน และมีน้องสาวอีก 1 คน ทุรโยธน์ มีความอิจฉาภารดาปาณฑพ และเฝ้าหาหนทางในการทำลายอยู่ตลอด ในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร ทุรโยธน์ถือเป็นผู้นำของกองทัพเการพ นำทัพเข้าต่อกรกับฝ่ายปาณฑพอย่างเข้มแข็ง
ภีมะเป็นลูกคนรองที่เกิดจากพระนางกุนตีสวดมนต์เรียกพระพายมาประทานบุตรให้ เกิดวันเดือนปี เดียวกันกับทุรโยธน์ ในครั้งที่ทุหศาสันจิกหัวพระนางเทราปทีและพยายามถอดผ้าของพระนาง ภีมะโกรธแค้นจนสาบานว่าจะต้องฆ่าทุรโยธน์ ด้วยการเอากระบองฟาดที่หน้าตัก และจับทุหศาสัน แหกอกและดื่มเลือดจากอกให้ได้ ภีมะมีลูกชายกับนางยักษ์หิทิมพี ชื่อว่าฆโฏตกัจ ซึ่งปรากฏตัวมาช่วยรบในสงคราม ที่ทุ่งกุรุเกษตรอีกด้วย
สาตยกีเป็นนักรบผู้เทิดทูนกฤษณะ และลูกศิษย์คนสำคัญของอรชุน สาตยกีเข้าร่วมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรกับฝ่ายปาณฑพ มีส่วนช่วยให้ฝ่ายปาณฑพชนะสงครามเป็นอย่างมาก และสาตยกีก็ยังเป็นหนึ่งในแปดคนที่รอดชีวิตจากสงครามอีกด้วย
พระกฤษณะเป็นอวตารของพระวิศณุและ เป็นญาติฝ่ายมารดาของผ่ายปาณฑพ มีความสนิทสนมกับอรชุน เป็นพิเศษ ในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร พระกฤษณะให้คำสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมรบกับฝ่ายปาณฑพ แต่จะทำหน้าที่เป็นเพียงสารถีให้กับอรชุนเท่านั้น ในระหว่างสงคราม ด้วยการชี้นำของพระกฤษณะ ทำให้อรชุน ปราบแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ของฝ่ายเการพ และชนะสงครามในที่สุด
อรชุนเป็นลูกของพระอินทร์ที่ประทานให้พระนางกุนตี เป็นน้องชายของยุธิษเฐียรกับภีมะ และยังเป็นพี่ชายของนกุลกับสหเทพ เมื่อครั้งที่ได้เล่าเรียนกับโทรณาจารย์ ก็เป็นศิษย์ที่อาจารย์รักมากกว่าใคร เนื่องจากมีฝีมือการยิงธนูที่เก่งกาจ อรชุนไม่ถูกกับกรรณะเป็นพิเศษ ถึงขั้นที่ต่างฝ่ายต่างสาบานว่า จะฆ่าฝ่ายตรงข้ามเสียให้ได้
กรรณะเป็นบุตรที่พระนางกุนตีกับพระอาทิตย์ ในครั้งที่กรรณะเกิด มีเสื้อเกราะและตุ้มหูติดกายมาด้วย เมื่อพระนางกุนตีไม่สามารถเลี้ยงดูกรรณะได้ จึงนำกรรณะไปทิ้งที่แม่น้ำ จนนายสารถีและนางราธา มาเก็บไปเลี้ยงจึงได้อีกชื่อหนึ่งว่า ราธียะ หรือลูกของนางราธา กรรณะมีความเก่งกาจด้านวิชายิงธนูไม่แพ้อรชุน และคอยหาโอกาสประลองเพื่อชิงความเป็นหนึ่งกัน
ท้าวภีษมะ เดิมชื่อเจ้าชายเทวพรต เป็นลูกของพระราชาศานตนุกับพระแม่คงคา เมื่อได้กล่าวคำสาบานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชบัลลังค์ และจะไม่แต่งงาน จึงได้ชื่อใหม่ว่าภีษมะ ทั้งยังได้รับพรจากพระราชาศานตนุ ว่าจะให้สามารถ มีชีวิตยืนยาวจนถึงวันที่ยินยอมพร้อมตายเองถึงจะตายได้ ท้าวภีษมะเคยมีเรื่องราวกับพระนาง อัมพา จนทำให้พระนางถึงขนาดสาบาน ว่าจะกลับชาติมาเกิดเพื่อเป็นต้นเหตุแห่งความตายของท้าวภีษมะ ในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร ท้าวภีษมะเป็นผู้บัญชาการของกองทัพเการพ ทั้งที่ไม่เต็มใจนัก เพราะอีกฝั่งก็เป็นหลานของตนเองเช่นเดียวกัน จึงบอกว่าจะเข้าร่วมสงครามโดยไม่สังหารพวกปาณฑพเด็ดขาด
โทรณาจารย์ หรือโทรณะ เป็นอาจารย์สอนวิชาอาวุธของเหล่าเการพ และปาณฑพ เมื่อครั้งยังเด็ก ระหว่างที่เล่าเรียนนั้น โทรณะได้มีเพื่อนรักชื่อทรุปัท หลังจากเล่าเรียนสำเร็จ ก่อนจากกันทรุปัทได้บอกโทรณะว่า เมื่อใดก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือให้มาหาได้ทันที เวลาผ่านไปไม่นาน จนโทรณะแต่งงานมีลูกชาย 1 คนชื่อ อัศวัตถามา มีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น โทรณะนึกถึงคำพูดที่เพื่อนเคยบอกไว้ จึงบากหน้าเดินทางไปพบทรุปัท แต่ทรุปัทปฏิเสธการช่วยเหลือ และแสดงทีท่ารังเกียจ ทำให้โทรณะแค้นใจมาก จึงเดินทางมาที่ราชสำนักหัสตินาปุระ สมัครเป็นอาจารย์สอนเหล่าเการพและปาณฑพ โดยมีข้อแม้ว่าเมื่อจบการศึกษา จะต้องทำสงครามกับท้าวทรุปัทเพื่อแก้แค้นให้ โทรณาจารย์เข้าร่วมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรในฝั่งเการพ และในวันที่ 15 ได้ถูกธฤษฏัทยุมนะ โอรสของท้าวทรุบท ตัดหัว ตามคำสาบานที่ให้ไว้ว่าจะเกิดมาเพื่อฆ่าโทรณะ
พลดาบผู้ชำนาญการใช้ดาบฟาดฟันฝ่ายตรงข้าม แม้จะมีพลังทำลายไม่มากแต่อาศัยจำนวนเยอะจึงสามารถทำลายล้างทัพศัตรูให้ยับเยิน นอกเสียจากเจอฝ่ายตรงข้ามระดับแม่ทัพเท่านั้น
พลหอกผู้ชำนาญการใช้หอกทิ่งแทงฝ่ายตรงข้าม แม้จะมีพลังทำลายไม่มากแต่อาศัยจำนวนเยอะจึงสามารถทำลายล้างทัพศัตรูให้ยับเยิน นอกเสียจากเจอฝ่ายตรงข้ามระดับแม่ทัพเท่านั้น
พลคฑาผู้ชำนาญการใช้คฑาโจมตีฝ่ายตรงข้าม แม้จะมีพลังทำลายไม่มากแต่อาศัยจำนวนเยอะจึงสามารถทำลายล้างทัพศัตรูให้ยับเยิน นอกเสียจากเจอฝ่ายตรงข้ามระดับแม่ทัพเท่านั้น
ในวันที่ 15 กองทัพปาณฑพวางแผนจะฆ่าโทรณาจารย์ให้ได้ ภีมะจึงฆ่าช้างที่มีชื่อเดียวกับลูกชายของโทรณาจารย์ชื่อ อัศวถามา แล้วปล่อยข่าวว่าอัศวถามา ตายแล้ว เมื่อข่าวได้ยินถึงโทรณาจารย์ โทรณาจารย์ก็ไม่เชื่อจึงถามย้ำกับยุธิษเฐียรว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ยุธิษเฐียรซึ่งตามปกติไม่เคยกล่าวคำโกหกเลยในชีวิต ก็ตอบว่าอัศวถามาตายแล้วจริงๆ เมื่อได้ยินคำตอบของยุธิษเฐียร โทรณาจารย์ก็เสียใจมาก จึงวางอาวุธลงและนั่งบำเพ็ญตบะเพื่อหลุดพ้น จึงเปิดโอกาสให้ธฤษฏะทยุมันเข้าถึงตัวและใช้อาวุธตัดคอโทรณาจารย์ได้ในที่สุด
เมื่อครั้งที่กองทัพเการพยกทัพมาตีเมือง เจ้าชายอัตรารับอาสานำกองกำลังไปต้าน โดยมีอรชุนในร่างของกระเทยชื่อพฤหันนลาเป็นสารถี แต่พอเจ้าชายอัตราได้เห็นกองทัพของเการพที่นำโดยท้าวภีษมะผู้ยิ่งใหญ่ก็เกิดความกลัว ไม่กล้าจะรบด้วยและอยากหนีกลับเมือง ท้ายที่สุดต้องให้พฤหันนลารบแทน โดยที่เจ้าชายอัตราสลับหน้าที่มาเป็นสารถีแทน
ในวันที่ปาณฑพได้ทำพิธีราสูญะ และมีกฤษณะเป็นประธานในพิธี ท้าวศิศุปาละได้ถือโอกาสด่าว่า ดูถูกกฤษณะเป็นอย่างมาก แต่กฤษณะก็ต้องอดทนตามสัญญาที่ให้ไว้ แต่พอครบ 100 ครั้ง กฤษณะก็เรียกจักรสุทัศน์มาตัดคอท้าวศิศุปาละจนตายในที่สุด
ในวันที่ 14 ระหว่างที่ภูริศรวัสทำหน้าที่ป้องกันชัยทรัถอยู่นั้น สาตยกีได้มาท้ารบ ต่างฝ่ายต่างสู้รบกันจนอาวุธพังทั้งคู่ จึงสู้กันต่อด้วยมือเปล่า สาตยกีถูกภูริศรวัสอัดจนสลบไป ในระหว่างที่ภูริศรวัสกำลังจะตัดคอของสาตยกีที่สลบไสลไม่ได้สติ อรชุนก็เข้ามาแทรกและยิงธนูตัดมือของภูริศรวัสทิ้ง อรชุนด่าว่าภูริศรวัสเรื่องที่ทำร้ายคนที่ไม่ได้สติ และเรื่องที่ฝ่ายเการพรุมกันฆ่าอภิมันยุ ภูริศรวัสรู้สึกสำนึกผิดจึงนั่งบำเพ็ญโยคะเพื่อหลุดพ้น ในจังหวะนั้นเองสาตยกีได้สติขึ้นมา จึงวิ่งมาตัดหัวของภูริศรวัสออกโดยที่อรชุนไม่ทันได้ห้ามปราม
ในการรบที่ทุ่งกุรุเกษตรในวันที่ 17 ซึ่งเป็นวันที่กรรณะตัดสินใจจะฆ่าอรชุนให้ได้ กรรณะได้ปรึกษากับกองทัพเการพและเห็นว่าการที่จะชนะอรชุนได้นั้น จำเป็นจะต้องมีสารถีผู้มีความสามารถในการบังคับรถม้าเป็นเลิศ กรรณะจึงขอให้ท้าวศัลยะผู้มีความเก่งกาจในการบังคับรถม้ามาเป็นสารถีให้ตน ในตอนแรกท้าวศัลยะไม่ยอม แต่เมื่อทุรโยธน์เกลี้ยกล่อมก็ยอมทำตามแต่โดยดี
โทรณาจารย์เคยให้สัญญากับอรชุนว่าจะสอนให้อรชุนเป็นนักธนูที่เก่งกาจไม่มีใครเทียบ แต่เมื่อทั้งสองได้เห็นเอกลัพท์ผู้มีผีมือธนูเก่งกาจขนาดที่อรชุนก็ไม่สามารถเทียบได้ อรชุนก็ได้ตำหนิโทรณาจารย์ว่าทำไม่ถูกต้องที่สอนให้เอกลัพท์เก่งกว่าตน โทรณาจารย์ได้ยินดังนั้นก็ขอให้เอกลัพท์ทำคุรุทักษิณา คือ การทำตามคำร้องขอของอาจารย์ ด้วยการให้เอกลัพท์ตัดนิ้วหัวแม่โป้งออกเสีย เอกลัพท์ได้ยินดังนั้นก็ทำการตัดนิ้วหัวแม่โป้งในทันที ทำให้เอกลัพท์ไม่สามารถยิงธนูได้อีก เป็นการตัดทางคู่แข่งของอรชุน และเน้นย้ำให้เห็นว่าในบรรดาศิษย์ทั้งหมด โทรณาจารย์รักอรชุนเป็นที่สุด
สมัยเด็กท้าวทรุปัทเรียนอยู่ที่เดียวกับโทรณาจารย์ ทั้งสองสนิทกันมาก ก่อนที่จะเรียนจบและแยกย้ายกันไปท้าวทรุปัทได้ให้สัญญากับโทรณาจารย์ว่าเมื่อใดที่ตกระกำลำบากให้ไปหาได้ทันที เมื่อผ่านเวลาไปประมาณหนึ่ง โทรณาจารย์มีภรรยาและลูก มีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นมาก จึงนึกถึงคำสัญญาที่ท้าวทรุปัทเคยให้ไว้ตอนยังเด็ก แต่เมื่อบากหน้าไปพบท้าวทรุปัท ทุกอย่างกลับตาลปัตร ท้าวทรุปัทนึกรังเกียจและไม่ยอมต้องรับโทรณาจารย์ โทรณาจารย์เก็บความแค้นเอาไว้ในใจ เดินทางไปราชสำนักหัสตินาปุระและพร่ำสอนเหล่าเด็กเการพและปาณฑพ เมื่อสำเร็จวิชาโทรณาจารย์ก็ขอให้เการพและปาณฑพยกทัพมายึดเมืองของท้าวทรุปัท ท้าวทรุปัทรบแพ้กองทัพของอรชุนก็นึกเสียใจว่าทำไมเราถึงไม่มีโอรสที่เก่งกาจเช่นอรชุนบ้าง จึงได้ทำพิธีขอลูกเพื่อให้เกิดมาล้างแค้นแทนตนชื่อว่า ธฤษฏะทยุมัน และพระธิดาชื่อเทราปที (ซึ่งในอนาคตจะเป็นภรรยาของอรชุนและปาณฑพ)
เมื่อครั้งที่ท้าวศานตนุได้เจอกับพระแม่คงคานั้น ได้ให้สัญญาไว้ว่า จะไม่โกรธไม่เกลียดและจะไม่ซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่พระแม่คงคาทำทั้งสิ้น หลังจากอยู่กินกับพระแม่คงคาได้ไม่นาน ก็ได้พระโอรสออกมาหนึ่งพระองค์ ท้าวศานตนุดีใจมาก แต่เมื่อจะเสด็จไปหาพระแม่คงคา ปรากฏว่าพระนางนั้นไม่อยู่กับที่ประทับ และกลับทิ้งพระโอรสลงไปในแม่น้ำ โดยทำอย่างนี้กับพระโอรสถึงเจ็ดพระองค์ด้วยกัน แต่เมื่อพระแม่คงคาได้ให้ประสูติพระโอรสองค์ที่แปดออกมาท้าวศานตนุก็ทนไม่ไหวและซักถามพระแม่คงคา พระนางจึงตรัสบอกกับพระองค์ว่าจะนำพระโอรสองค์ที่ 8 (ซึ่งแท้ที่จริงก็คือเทพทยุ ของเหล่าคณะเทพวสุ ที่ถูกสาปให้ลงมาชดใช้กรรมที่พยายามขโมยแม่โคนันทินี) ไปเลี้ยงดูเอง เมื่อทารกเติบใหญ่ได้กลับมาอยู่กับพระราชาศานตนุ มีชื่อว่า "เจ้าชายเทวพรต" ซึ่งจะโตมาเป็น "ท้าวภีษมะ" นักรบผู้ยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
ในตอนที่ฤาษีวยาสต้องการจะรจนาเรื่องราวของมหากาพย์มหาภารตะนี้ขึ้น แต่ยังขาดผู้ที่จะคอยจดบันทึกให้ พระพรหมจึงแนะนำว่า พระคเณศ ซึ่งเป็นผู้มีปัญญา และสามารถเขียนได้อย่างรวดเร็ว โดยการนี้ฤาษีวยาสจึงเดินทางไปขอให้พระคเณศช่วยเหลือ พระคเณศตอบรับ และวางเงื่อนไขไว้ข้อหนึ่งว่า "เมื่อใดก็ตามที่ข้าพเจ้าลงมือเขียน ท่านจะต้องบอกเล่าโดยไม่สามารถหยุดได้" ฤาษีวยาสจึงรับคำ โดยบอกว่า "สิ่งที่พระคเณศจดนั้น จะต้องเข้าใจเสียก่อน" นั้นจึงทำให้ฤาษีวยาสมีเวลาพัก ระหว่างที่พระคเณศพยายามทำความเข้าในใจเรื่องราวบางช่วงบางตอนที่ดูจะยาก และซับซ้อน
"พระมารดาของเจ้าชายเทวพรต"
พระนางคงคาคือเจ้าแม่คงคาที่ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ ก่อนที่จะลงมาเกิดได้ให้สัญญากับกลุ่มเทพวสุว่าเมื่อเทพวสุมาเกิดในท้องของพระแม่ จะช่วยให้หมดกรรมไวๆ เพื่อที่จะได้กลับไปสวรรค์ดังเดิม ยกเว้นแต่เทพวสุองค์สุดท้ายที่จำเป็นจะต้องใช้กรรมจึงต้องอยู่ในโลกนี้นานกว่าใคร หลังจากที่ภีษมะตายพระนางคงคาก็มารับไปอยู่บนสวรรค์ดังเดิม
"ลูกศิษย์ผู้เก่งกาจของอรชุน"
สายตกีเป็นนักรบผู้เทิดทูนกฤษณะ และลูกศิษย์คนสำคัญของอรชุน สาตยกีเข้าร่วมสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรกับฝ่ายปาณฑพและมีส่วนช่วยให้ชนะสงครามเป็นอย่างมาก ในวันที่ 14 ซึ่งเป็นวันที่อรชุนสาบานจะสังหารท้าวชัยทรัถให้ได้ สาตยกีได้กำจัดภูริศรวัส และเปิดทางให้อรชุนเข้าไปจัดการชัยทรัถได้สำเร็จ สาตยกีเป็นหนึ่งในแปดคนของกองทัพปาณฑพที่รอดชีวิตจากสงครามได้